พระพญาเหล็ก หลวงปู่หวล และ อ.เสือ


ผมไปฝังเหล็กไหล (พญาเหล็ก/พญาสมิงเหล็ก) ไว้ทำไม
--------------------------------------------------------------------
เมื่อวันมาฆะบูชา ปี 2554 ได้ฝังพญาเหล็กเงินยวงของหลวงปู่หวล.....


วันที่ 26 ก.ค. 2558 ฝังพญาสมิงเหล็กสุวรรณราชาของหลวงพ่อสมพร
เพื่อนหลายคนถามว่า...ฝังไปทำไม ห้อยคอไม่ได้หรือ ไม่ต้องเจ็บตัว...
.
ความเห็นส่วนตัวผมคือ ผมเคยเห็นพรรคพวกที่ห้อยพระหรือวัตถุมงคลต่างๆ นั้น ปกติก็เป็นคนรักษาศีลกันปกติดี แต่พอมีเรื่องที่จะต้องให้ผิดศีลขึ้นมา อาทิ
- มีการเลี้ยงฉลองบางโอกาส และมีเหล้าเบียร์มาเกี่ยวข้อง
- เข้าไปสถานที่อโคจรโดยตั้งใจเพราะหักห้ามใจไม่ได้
คนเหล่านี้ก็มักจะถอดพระที่ห้อยคอออก แล้วก็ทำตามใจกิเลส ผิดศีลกันไปโดยตั้งใจ ถือว่าถอดพระหรือวัตถุมงคลออกไปแล้ว ท่านก็ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ตอนนี้จะทำไม่ดีอย่างไรก็เป็นเรื่องตัวเราเอง
.
ด้วยเหตุข้างบนนี้ ผมจึงตัดสินใจฝังเหล็กไหลไว้ทั้งสองแขนเลยก็เพราะ ผมพิจารณาแล้วเห็นว่าการทำแบบนี้ ผมจะไม่สามารถผิดศีลได้ต่อไปอีกแล้ว เพราะผมจะไม่สามารถนำเหล็กไหลที่ฝังไว้ออกมานอกกายเหมือนเพื่อนถอดพระห้อยคอออกก่อนผิดศีล เป็นการควบคุมกายและใจโดยตั้งใจที่สุด
.
ที่น่าแปลกก็คือ ข้อห้ามเคร่งครัวของหลวงปู่หวลและพระอาจารย์สมพรในการฝังเหล็กไหลเหมือนกันก็คือ ห้ามผิดศีลข้อ 3 (กาเมสุมิจฉาฯ) อย่างเด็ดขาด มีโทษมากถ้าฝังเหล็กไหลแล้วผิดศีลข้อนี้
.
เมื่อปี 2554 ที่ไปฝังพญาเหล็กกับหลวงปู่หวลนั้น เพื่อนคนหนึ่งที่ไปฝังพญาเหล็กด้วยกันคนหนึ่งและก็รู้ข้อห้ามนี้แล้ว แต่อีก 1 สัปดาห์ต่อมา เกิดเหตุพญาเหล็กที่ฝังไว้แทงทะลุผิวหนังออกมาครึ่งองค์แล้วค้างอยู่อย่างนั้น ดึงก็ไม่กล้าดึงออก ดันคืนเข้าไปก็ไม่เข้า ต้องเอาไปให้หมอผ่าออก ไม่ได้ถามรายละเอียดว่าไปผิดข้อห้ามหลวงปู่หวลหรือเปล่า เพราะคนอื่นๆ ที่ไปด้วยกันนั้น พญาเหล็กก็อยู่กับที่ทางปกติดี นับเป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องครับ

-----------------------------------------------
เพิ่งเคยเห็นภาพตนเองถูกถ่ายตอนนอน เห็นแล้วนึกได้เลยว่า ภาพนี้เหมือนหลวงพ่อกำลังจะพิจารณาอุสภะกรรมฐาน ฮ่าๆๆๆ
.
ขั้นตอนการฝังพญาสมิงเหล็ก "สุวรรณราชา" เป็นขั้นตอนที่สะอาดใช้ได้ และผู้ช่วยหลวงพ่อ และหลวงพ่อเองก็ถือว่ารู้จักวิธี Aseptic Technic ไม่ใช่ฝังเหล็กไหลแบบชาวบ้าน
.
เริ่มต้น 
1. ผู้ช่วยหลวงพ่อจะนำพญาสมิงเหล็กล้างด้วย Alcohol 70% ทิ้งให้แห้งโดยไม่แตะต้องซ้ำอีก
2. ผู้ช่วยฯ หยิบใบมีดผ่าตัดใหม่เอี่ยมแกะ เปิดซองเพียงครึ่งเดียว แล้วนำด้ามมีดผ่าตัดเสียบเข้าใบมีด โดยใบมีดยังอยู่ในซอง ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง
3. หลวงพ่อออกมาแล้ว ท่านนำพญาเหล็กมาอธิษฐานจิตด้วยคำพูดภาษาไทยให้ผมฟังเข้าใจว่าท่านอธิษฐานอะไร ซึ่งเป็นการอธิษฐานที่ส่งผลด้านกำลังใจดีมาก ข้อห้ามข้อเดียวคืออย่าผิดศีลข้อ 3
4.ท่านใส่ถุงมือทางการแพทย์ ผู้ช่วยทา Alcohol ที่ท้องแขน รอจนแห้งแล้วหลวงพ่อก็หยิบมีดผ่าตัดออกจากซอง กรีดท้องแขน (เจ็บแปล๊บๆ เตะขาเตียงเจ็บกว่า 10 เท่า) เลือดออกนิดหน่อย แล้วท่านก็หยิบพญาสมิงเหล็กด้วยมือที่ใส่ถุงมือยางใส่เข้าไปใต้ผิวหนัง (Subcutaneous)
5. หลวงพ่อท่านดันพญาสมิงเหล็กให้เลี่ยงห่างปากแผลไปสัก 1 ซม. แล้วทายา ปิดปากแผลด้วยพลาสเตอร์ เป็นอันเสร็จพิธี
.
แขนซ้าย ก็มีพญาเหล็กเงินยวง หลวงพ่อหวล / แขนขวา พญาสมิงเหล็ก "สุวรรณราชา" หลวงพ่อสมพร
.
ตอนนี้ แขนและมือทั้งสองข้าง รวมตัวและจิตใจ เลิกทำชั่วได้เลยคุณอ๊อด
.
ตอนหลวงพ่อกรีดท้องแขน เพื่อนผมมันกลัวเลือด (ทั้งๆ ตัวใหญ่ยังกะหมี หนักเป็นร้อยโล) ก็เลยไม่ได้ถ่ายมา ดันถ่ายตอนผมนอนเหมือนตายแล้วหลวงพ่อสวดให้ซะงั้น

***************************************************
วิชาอัญเชิญเหล็กไหล เท่าที่ผมทราบก็มี 3 อย่างครับ

1. ใช้วิชาบังคับตัด และจะต้องมีอุปกรณ์ตัดเหล็กที่แสนจะพิศดาร ซึ่งจะได้เหล็กที่มีอานุภาพมากที่สุด รุนแรงที่สุด แต่ไม่เหมาะกับคนธรรมดาหรือผู้ที่ไม่เคยเป็นเจ้าของกันมาก่อน
2. อานุภาพรองลงมาก็คือเหล็กที่ได้มาแบบวิธีของหลวงปู่หวล
3. อานุภาพรองลงมาอีก ก็คือเหล็กที่ได้จากการสละด้วยตนเอง ตามแบบพ่อครูลำยูร และอีกหลายๆ คนในขณะนี้
.
ใครมีแค่แบบ 2 และ/หรือแบบ 3 ก็ถือว่าได้เหล็กไหลที่พอเหมาะพอควรกับตนเองแล้วล่ะครับ
.
แบบที่ 1 ต้องเป็นคู่บุญบารมีกันเท่านั้น ไปจ้างใครตัดไม่ได้หรอก มีอันตรายถึงชีวิตกันมาเยอะแยะครับ ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว
.
แบบที่ 1 อย่ายุ่งกับเขาเลยจะดีที่สุดครับ
***************************************************
พิธีกรรมอัญเชิญพญาเหล็ก
ของ ท่านเจ้าคุณพระพุทไธศวรรย์วรคุณ (หลวงปู่หวล ภูริภทฺโท)
วัดพุทไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา
*** ข้อมูลจาก นิตสารโลกลี้ลับ ฉบับที่ ๑๕๐ เดือนมิถุนายน ๒๕๔๐
ก่อนอื่นหลวงพ่อหวลจะเพ่งกระเเสจิตของท่าน สำรวจดูว่าในถ้ำเเห่งใดมีพญาเหล็กสถิตย์อยู่ เมื่อรู้เห็นในญาณทัศนะชัดเจนเเล้ว ท่านก็จะพาลูกศิษย์ของท่านเดินทางไปสำรวจให้เห็นกับตาอีกครั้ง จากนั้นก็กำหนดฤกษ์ยาม วันเวลาที่จะทำพิธีท่านว่า ถ้ำที่จะมีพญาเหล็กสถิตย์อยู่นั้น ต้องเป็นถ้ำที่สะอาด ไม่มีค้างคาวมาอาศัย โดยมากจะเป็นถ้ำหินอ่อนที่มีความเย็นสูง หรือ ถึงกับเย็นยะเยือกเมื่อเดินเข้าไปสู่ภายใน เเละเป็นถ้ำที่เเห้งสะอาดนอกจากเครื่องบวงสรวงในการทำพิธีเเล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับพิธีนี้คือ น้ำผึ้งเเท้บริสุทธิ์ ซึ่งจะต้องจัดเตรียมไปจำนวนมากอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้เช่นกันคือ ขี้ผึ้งบริสุทธิ์ ซึ่งจะต้องจัดเตรียมไปจำนวนมากเช่นกันการทำพิธีบวงสรวง ก็เพื่อบอกกล่าวต่อเจ้าถ้ำ เจ้าที่เจ้าทาง เทพเทวาอารักษ์ทั้งหลาย ถึงจุดประสงค์ของการมาทำพิธีว่า จะอัญเชิญพญาเหล็กไปเพื่อประโยชน์เเก่พระพุทธศาสนาประการใดบ้าง
เมื่อทำพิธีบวงสรวงเสร็จเเล้ว หลวงพ่อหวลท่านจะกำหนดจิตอธิษฐานตามวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา จากนั้นก็เอาน้ำผึ้งบริสุทธิ์ที่เตรียมมา ป้ายชโลมไปตรงรอยเเตกของผนังถ้ำ พร้อมกับบริกรรมคาถากำกับไว้ตลอดเวลาจนเสร็จพิธีหลังจากนั้นหลวงพ่อท่านได้ยืนกำหนดจิตด้วยอาการสงบ สักพักหนึ่งบรรดาศิษย์ที่มาร่วมพิธีต่างได้พบกับเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ยิ่ง กล่าวคือ ตรงรอยเเตกของผนังถ้ำนั้นปรากฎมีวัตถุอย่างหนึ่ง ไหลออกมากินน้ำผึ้งที่หลวงพ่อท่านได้ป้ายไว้หลวงพ่อหวลจึงนำด้ายสายสิญจน์ ที่ชโลมไว้ด้วยน้ำผึ้งจนเปียกชุ่ม กดปลายด้านหนึ่งลงไปในช่องรอยเเตกนั้น เเล้วโยงสายสิญจน์ที่เหลืออีกด้านหนึ่งลงไปยังบาตรน้ำมนต์ขนาดใหญ่ ที่บรรจุน้ำผึ้งเเท้บริสุทธิ์จำนวนมาก โดยภายนอกบาตรจะถูกหุ้มไว้ด้วยขี้ผึ้ง เเละมีผ้าขาวลงอักขระยันต์ปิดปากบาตรไว้ มีเพียงรูเล็กๆที่จะเอาด้ายสายสิญจน์แหย่ลงไปได้เท่านั้น
ท่านบอกว่า บาตรน้ำมนต์ที่ต้องหุ้มไว้ด้วยขี้ผึ้งเเละบรรจุน้ำผึ้งไว้ในบาตร ก็เพื่อล่อให้พญาเหล็ก (เหล็กไหล) ลงมากิน ส่วนผ้ายันต์สีขาวนั้น ก็เป็นยันต์กำกับป้องกันไม่ให้พญาเหล็กที่ลงมากินน้ำผึ้งในบาตร หนีกลับเข้าไปในผนังถ้ำได้อีกพอโยงสายสิญจน์ลงสู่บาตรที่มียันต์กำกับไว้เรียบร้อยเเล้ว ท่านก็จุดเทียนซึ่งทำเป็นพิเศษจากขี้ผึ้งเเท้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ลนเปลวเทียนไปที่ผนังถ้ำซึ่งเหล็กไหลโผล่ออกมาให้เห็น พร้อมบริกรรมคาถากำกับไว้ตลอดเวลา ทำให้เหล็กไหลได้ไหลย้อยลงมาตามสายสิญจน์เพื่อกินน้ำผึ้งในบาตร โดยเหล็กไหลที่ไหลลงมานั้นจะมีอยู่ ๓ สี คือ สีเมฆพัด(สีน้ำเงินอมเขียว) สีเงินยวง สีท้องปลาไหล เเต่จะเป็นสีใดนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของเหล็กไหลที่มีอยู่ในถ้ำเเห่งนั้น
การทำพิธีอัญเชิญพญาเหล็ก (เหล็กไหล) ของหลวงพ่อหวล ท่านจะมุ่งเน้นที่เหล็กไหลสีเมฆพัด (สีน้ำเงินอมเขียว) เเละสีเงินยวง เพราะสองลักษณะนี้ สามารถที่จะนำมามอบให้กับผู้มาร่วมทำบุญกับท่านได้ส่วนสีท้องปลาไหล ท่านไม่นิยมมอบให้ลูกศิษย์ ท่านว่า เหล็กไหลลักษณะนี้มีอาถรรพณ์ร้อนเเรง ผู้ที่ครอบครองจะมีความฮึกเหิม ซึ่งอาจเป็นเหตุให้สร้างความเดือดร้อนเเก่ตนเองเเละผู้อื่นได้
หลังจากที่เหล็กไหลได้ไหลลงในบาตรจนหมดเเล้ว (ในสภาพที่เป็นของเหลว) หลวงพ่อก็นำไปประกอบพิธีต่อไป คือ การทำให้เหล็กไหลที่เหลวนั้นเเข็งตัว โดยการนำบาตรไปตั้งบนเตาไฟ เเล้วเอาหุ่นขี้ผึ้งเเท้บริสุทธิ์รูปทรงต่างๆ ที่ต้องการให้เหล็กไหลก่อตัวเป็นรูปทรงนั้นๆ เช่น รูปทรงพระกริ่ง รูปทรงพระสมเด็จ ฯลฯ โดยหุ่นขี้ผึ้งนี้จะมีจะมีสายชนวนอยู่ด้านบนเเบบเดียวกับเทียนไข สำหรับไว้จุดไฟในขณะทำพิธีหล่อหลอมเหล็กไหลให้เป็นรูปทรงตามต้องการ
เมื่อหลวงพ่อจุดไฟตรงด้ายชนวนเเล้ว ท่านก็บริกรรมคาถากำกับไปเรื่อยๆในขณะที่หุ่นขี้ผึ้งเริ่มละลายไปทีละเล็กละน้อย เมื่อ หุ่นขี้ผึ้งละลายไปจนใกล้จะหมด เหล็กไหลที่มีสภาพเหลวที่อยู่ในบาตร ก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปทรงเหมือนหุ่นขี้ผึ้งต้นเเบบอย่างน่าอัศจรรย์โดยเหล็กไหลที่เเข็งตัวเป็นรูปทรงตามหุ่นขี้ผึ้งต้นเเบบนั้น (รูปทรงพระกริ่ง รูปทรงพระสมเด็จ ฯลฯ) จะมีขนาดเล็กกว่าหุ่นต้นเเบบ มีลักษณะสีสันวรรณะเเปลกประหลาด สีเเวววาวเหลือบมัน
เมื่อเหล็กไหลก่อตัวเสร็จสมบูรณ์เเล้ว หลวงพ่อก็จะนำมาทำพิธีสวดญัตติ ซึ่งเป็นพิธีกรรมในการป้องกันไม่ให้เหล็กไหลเเปรเปลี่ยนสภาพไปอยู่ในสภาพเดิม หรือ หนีกลับคืนไปยังถ้ำที่นำมาเเต่เดิม หลังจากนั้นท่านจะทำพิธีปลุกเสกอธิษฐานจิตอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นจึงนำมามอบให้กับลูกศิษย์ผู้มาร่วมทำบุญอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนาต่อไป
*********************************************
ธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก)
จะช่วยให้ความคุ้มครองป้องกันสรรพอันตรายแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ผู้ทรงศีล ทรงธรรม ตามสมควรแก่บุญบารมี - ทำหน้าที่เป็นภาคผู้เลี้ยง ช่วยให้ผู้มีไว้ในครอบครอง เจริญด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ เป็นอุปการะแก่การบำเพ็ญบารมีธรรมให้ถึงนิพพานสมบัติแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ผู้ประกอบคุณธรรมเพิ่มพูนบารมีธรรมได้เป็นอย่างดี
ธาตุกายสิทธิ์ประเภทดีมีคุณธรรม จะช่วยชักนำให้ผู้มีอยู่ในครอบครอง ปฏิบัติธรรมอยู่ในคุณความดี คือ ทานกุศล ศีลกุศล และ ภาวนากุศล ให้เจริญเเก่กล้ายิ่งๆขึ้นไป เพื่อที่จะเขาจะได้อนุโมทนาบุญ และได้มีโอกาสบำเพ็ญบารมีธรรมด้วย จึงให้แต่คุณแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ผู้เป็นคนดีมีศีลมีธรรม
ส่วนธาตุกายสิทธิ์ประเภทที่ด้อยคุณธรรม ก็ปรารถนาอยู่ว่า ผู้ที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของจะปฏิบัติอยู่ในคุณธรรมดี เพื่อที่เขาจะได้ร่วมอนุโมทนา และได้มีโอกาสบำเพ็ญบารมีธรรมด้วย เพื่อเลื่อนภูมิจิตใจให้สูงขึ้น แต่ถ้าเจ้าของผู้ครอบครองเป็นคนชั่วช้า ลุแก่อำนาจกิเลส (โลภะ ราคะ โทสะ โมหะ) ธาตุกายสิทธิ์ประเภทนี้ กลับจะให้โทษแก่ผู้ครอบครองได้ง่าย และรุนแรงด้วย
ฉะนั้น
- ของดีต้องอยู่กับคนดี จึงดีเลิศ คนไม่ดีถึงจะได้ครอบครองของดี ก็มีอยู่ได้ไม่นาน
- ส่วนคนดีได้ครอบครองของที่มีอานุภาพที่ทั้งดีและไม่ดี ก็จะมีแต่ดี ไม่มีโทษ
- แต่คนไม่ดีที่ได้ครอบครองของที่มีอานุภาพทั้งดีและไม่ดี ย่อมไม่ได้ผลดี และยังจะชักนำกันไปในทางที่ไม่ดีอันมีโทษได้ เพราะฉะนั้นผู้มีของดี หรือ มีของที่มีอานุภาพทั้งดีและไม่ดี จึงต้องประพฤติปฏิบัติตนอยู่แต่ในคุณความดีโดยส่วนเดียว จะประมาทมิได้ จึงจะมีแต่ดีกับดีโดยตลอด
เหตุที่มีข่าววัตถุธาตุกายสิทธิ์ /เหล็กไหล...ในปัจจุบันนี้มาก เพราะเหตุสำคัญ ๒ ประการ คือ
๑. มีการทำของเทียมขึ้นจำหน่ายให้แก่ผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยความโลภ หรือด้วยความปรารถนาลามก
๒. ในยุคปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเป็นที่ตั้งมั่นสำคัญของพระพุทธศาสนา เป็นบ่อเกิดและที่สถิตอยู่ของผู้มีบุญบารมี ผู้บำเพ็ญบารมีธรรมเพื่อความบรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันตสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสัพพัญญูพุทธเจ้า ตามระดับอธิษฐานบารมีที่ได้กระทำมาแล้วเป็นจำนวนมาก
เทพ เทวาผู้สัมมาทิฏฐิ ผู้ดูแลรักษาธาตุกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยง จึงเปิดบารมีธรรมแก่ผู้กำลังบำเพ็ญบุญบารมีในระดับต่างๆ ให้ได้รับธาตุกายสิทธิ์ ภาคผู้เลี้ยงที่มีอยู่ในโลก ในจักรวาล เพื่อเป็นอุปการะแก่การบำเพ็ญบารมีธรรมให้ยิ่งขึ้นไปได้สะดวก และเพื่อช่วยกันสืบบวรพระพุทธศาสนาในประเทศไทยนี้ ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคงยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่ออำนวยประโยชน์สุขและความสันติสุขแก่สาธุชนหมู่ใหญ่ ทั้งแก่ชาวไทยและชาวโลก ให้ได้มากที่สุดเป็นสำคัญ
เหตุนั้นแท้ที่จริงแล้ว ธาตุกายสิทธิ์นี้จึงได้มีการใช้กันอยู่แล้ว ในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรม และศิษยานุศิษย์ ตลอดทั้งผู้ปกครอง ผู้กอบกู้ และผู้รักษาประเทศชาติบ้านเมืองไทยเรามาแต่โบราณกาลแล้ว เพียงแต่ไม่มีสื่อมวลชนกระจายข่าวกันมาก และไม่มีการทำของเทียม (ปลอม) หลอกลวงจำหน่ายกันมากขึ้น ดังเช่นทุกวันนี้เท่านั้น
วิธีรักษาธาตุกายสิทธิ์ให้ดีตลอด เเละ วิธีพัฒนาธาตุกายสิทธิ์ที่ร้ายให้กลายเป็นดี
๑. ธาตุกายสิทธิ์ (เหล็กไหล) เหล่านี้ ปรารถนาที่จะเข้าสู่กระเเสธรรม มุ่งอยู่ที่การบำเพ็ญบารมีธรรมเพื่อเลื่อนภูมิจิตของตนเองเข้าสู่ความเป็น "พระอริยเจ้า" ถึงพระนิพพานอันเป็นอมตธรรมเป็นสำคัญจึงต้องอยู่กับคนดีมีศีลธรรมเท่านั้นจึงดี เเละจะให้คุณเป็นความเจริญด้วย มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติเเละเป็นอุปการะเเก่ผู้มีไว้ในครอบครองผู้บำเพ็ญบารมีธรรม ให้ถึงความบรรลุ มรรค ผล นิพพาน...ได้สะดวก
เพราะฉะนั้น ผู้มีโอกาสได้เป็นเจ้าของผู้ครอบครองธาตุกายสิทธิ์เหล่านี้จักต้องดำรงตนอยู่เเต่ในคุณความดี เพิ่มพูนบารมีธรรม โดยปฏิบัติ "ทานกุศล" "ศีลกุศล" "ภาวนากุศล" ให้ยิ่งๆขึ้นไปเเละให้เขาได้มีโอกาส "อนุโมทนาบุญ" เเละ "ร่วมบำเพ็ญบารมีธรรม" ...ไปกับเราด้วย
โดยประการนั้นเเหละถูกต้องความประสงค์ของเขานักเเละ "กายสิทธิ์" ที่สถิตอยู่ก็จะได้ทำหน้าที่เป็น "ภาคผู้เลี้ยงพระ" ได้อย่างสมบูรณ์
๒. ถ้าเป็นคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน หรือ เเม้ผู้เป็นนักบวช ผู้ยังไม่ชำนาญในการเจริญภาวนาชำระธาตุธรรมได้เองควรมีธาตุกายสิทธิ์ประเภทที่ "ผู้รู้" หรือ "ผู้ทรงคุณวุฒิ" ท่านได้นำมาสร้างเป็นพระ หรือได้ฝังอยู่ในองค์พระเเละที่ผ่านการเจริญภาวนาชำระสะสางธาตุธรรม นำเข้าสู่กระเเสธรรมเเห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดีเเล้ว จึงจะดี เเละปลอดภัยที่สุด
วัตถุมงคลมวลสารธาตุกายสิทธิ์ (เหล็กไหล)
๑. ธาตุเป็น
วัตถุธาตุกายสิทธิ์ผสม ของ "เหล็กไหลบารมี" เเละ/หรือ "เหล็กไหลตัด" ที่มีส่วนผสมของเเร่ที่เป็นมงคล เช่น ทองคำ เงิน สังฆวานร เพชรหน้าทั่ง รังหรือโคตรเหล็กไหล ดินกากยายักษ์ ว่านยา สมุนไพร เเละพันธ์ไม้ที่เป็นมงคลต่างๆ เป็นต้น หล่อหลอมขึ้น หรือสร้างขึ้นเป็นพระพุทธรูป ฯลฯด้วยพิธีการเจริญภาวนา "ชำระธาตุธรรมส่วนละเอียด" ของธาตุกายสิทธิ์ ที่หลอมหรือสร้างขึ้นมานั้นเเล้วนำเข้าสู่กระเเสธรรม เเละบรรจุพลัง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณตามวิธีที่บูรพาจารย์ได้เคยกระทำได้ผลดี มีอานุภาพสูงมาเเล้ว
๒. เป็นธาตุกายสิทธิ์ประเภท "เหล็กไหลบารมี" คือ หลุด (ตัด) เอง ...ออกมาจากรังหรือโคตรเหล็กไหลตามธรรมชาติ เเล้ววิวัฒนาการบารมีธรรมสูงขึ้นๆไปตามลำดับ ได้เเก่ พญาสมิงเหล็ก เหล็กไหลตาน้ำ เหล็กไหลเพลิง ฯลฯ ที่ได้มาด้วยบารมีธรรมของตน เเละ/หรือ ด้วยเทพเทวาเขาเปิดบารมีให้...อย่างนี้ก็มี ประเภทนี้ มีอานุภาพเเก่ผู้มีไว้ในครอบครอง....ที่ละเอียดเเละเยือกเย็นเเละยิ่งเป็นผู้มีศีลมีธรรม...ยิ่งเจริญดีถ้าอยู่กับคนดีน้อย เขาจะพยายามชักนำให้ดีขึ้นถ้า อยู่กับคนไม่ดีโดยสันดาน ก็จะอยู่ด้วยไม่ได้นาน
๓. เป็นธาตุกายสิทธิ์ประเภทที่ "ตัดสด" จริงๆ โดยพระอริยเจ้า หรือ ผู้ทรงวิทยาคุณ ผู้เชิญเขาออกมาด้วยพระพุทธมนต์หรือ เรียกบังคับเขาออกมาจากรังหรือโคตรเหล็กไหล ด้วยทั้งพระพุทธคุณ เเละทั้งเวทย์มนต์...ก็มีประเภทนี้มี "อานุภาพรุนเเรง" แต่ถ้าได้ผ่านการ "เจริญภาวนาชำระธาตุธรรม" เเละให้เข้าอยู่ใน "กระเเสธรรม" เเล้วจึงดีเเละถ้าอยู่กับคนดี มีศีลมีธรรม ปฏิบัติธรรมเพิ่มพูนบารมีธรรมอยู่เสมอเเล้ว...ก็จะยิ่งดีเเต่ถ้าอยู่กับคนไม่ดี คนขาดศีลขาดธรรมเเล้ว มักมีโทษ เเละไม่อยู่ด้วยนาน
ธาตุกายสิทธิ์ประเภทนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผู้ทรงศีลทรงธรรมได้ทำ หรือที่ได้สร้างขึ้นเป็พระพุทธรูป ฯลฯจึงเป็น "ธาตุกายสิทธิ์ที่ให้คุณมาก" เเละ "ปลอดภัยดีที่สุด" ... เเก่ผู้มีไว้ในครอบครองเพราะเป็นวัตถุธาตุที่ "ผ่านกระเเสธรรมดีเเล้ว" จึงมีเเต่จะเป็นสิริมงคลเเก่ผู้มีไว้ในครอบครองด้วยใจศรัทธาในพระรัตนตรัยเเต่ส่วนเดียว
*** คัดลอกบางตอนจาก
บทความเรื่อง อานุภาพธาตุกายสิทธิ์ - เหล็กไหล / พญาสมิงเหล็ก
นิตยสารธรรมกาย ฉบับที่ ๔๗ มกราคม - มีนาคม ๒๕๔๑ 
***************************************************


พิมพ์พระพุทธ อ.เสือสร้าง


พิมพ์พระพุทธ อ.เสือสร้าง


พิมพ์พระพุทธ อ.เสือสร้าง


พิมพ์พระพุทธ อ.เสือสร้าง




อ.เสือสร้าง


พิมพ์พระสมเด็จ อ.เสือสร้าง

พิมพ์พระสมเด็จ อ.เสือสร้าง




พิมพ์พระลีลา อ.เสือสร้าง ปลุกเสกเสาร์ห้า วัดพุทไธศวรรย์ ปี 54
พิมพ์พระสมเด็จ และพิมพ์ฝักต้อยติ่ง ของหลวงปู่หวลและ อ.เสือสร้าง ปลุกเสกเสาร์ห้า วัดพุทไธศวรรย์ ปี 54


พิมพ์พระพุทไธศวรรย์


พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่หวล


พระพญาเหล็ก มีกริ่ง อ.เสือสร้าง


เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่หวล หลวงปู่หวลสร้าง


พระหล่อโบราณ หลวงปู่หวลเสก และบรรจุกริ่งพญาเหล็ก


องค์กลาง พิมพ์เทวดา หลวงปู่หวล
องค์ซ้ายขวา พิมพ์พระพุทธ อ.เสือสร้าง


พิมพ์พระกริ่ง มีกริ่งพญาเหล็ก อ.เสือสร้าง


พิมพ์ท่านท้าวชินะปัญจระ อ.เสือสร้าง


นำพญาเหล็กรับแสงจันทร์ วันขึ้น 15 ค่ำ






พญาเหล็กสีเงิน สีทอง เสด็จอจินไตย กำลังเสพน้ำผึ้ง (ฟองอากาศผุดเป็นสาย)





พระพญาเหล็กหลวงปู่หวลสร้าง


อ.เสือสร้าง


มีกริ่ง อ.เสือสร้าง


อ.เสือสร้าง


หลวงปู่หวลสร้าง


อ.เสือสร้าง


อ.เสือสร้าง


อ.เสือสร้าง


อ.เสือสร้าง

ถ้ามีจาร นะ ชา ลิ ติ ล่ะก็ ของอ.เสือสร้าง


หลวงปู่หวลสร้าง


หลวงปู่หวลสร้าง


อ.เสือสร้าง



พญาเหล็กเสด็จแบบอจินไตย จากวัดป่าฯ


อ.เสือสร้าง นิมนต์มาครบชุด


พระขรรค์ อ.เสือสร้าง (ซ้าย) หลวงปู่หวลสร้าง (ขวา)



มีกริ่ง อ.เสือสร้าง
*******************************************